อีเตอร์
อีเตอร์ เป็นเครื่องมือใช้ในการขุด ดึง งัด วัสดุที่แข็ง เช่น หิน, คอนกรีต, ดินแข็ง ด้านหนึ่งมักจะมีแปลงแหลมและแคบ ในขณะที่ด้านอีกด้านจะมีแปลงแบนและกว้าง และจะต้องประกอบเข้ากับด้ามไม้ยาว ด้ามอีเตอร์ ซึ่งการออกแบบให้มี 2 หัวแบบนี้ จึงทำให้อีเตอร์เป็นเครื่องมือที่ประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย สามารถใช้งัดสิ่งต่างๆ สามารถใช้งานแทนชะแลงได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าใช้งัดงานที่หนักมากๆ ควรใช้ชะแลงโดยตรงจะเหมาะสมกับงานมากกว่า ผลิตจากเหล็กคุณภาพดี ผ่านกระบวนการผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยแข็งแรงทนทาน ทนต่อการใช้งาน อีเตอร์ มักใช้งานอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้าง, งานเหมือง, การทำสวนและการจัดสวน
ขนาด อีเตอร์
ความยาวรวม : 50 เซนติเมตร
ความยาวด้านแหลม : 23 เซนติเมตร
ความยาวด้านแบน : 23 เซนติเมตร
ความลึกของรูด้าม : 6 เซนติเมตร


เส้นผ่าศูนย์กลาง รูด้าม A : 4 x 5.5 เซนติเมตร
เส้นผ่าศูนย์กลาง รูด้าม B : 5 x 6.5 เซนติเมตร
ความกว้างของปลายด้านแบน : 5.5 เซนติเมตร


การประยุกต์ใช้งาน อีเตอร์

การประยุกต์ใช้งานอีเตอร์มีหลายวิธี เช่น:
- การขุดหรือขัดดินแข็ง: ใช้อีเตอร์ในการค้ำในการขุดหรือขัดดินแข็งเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการปลูกพืชหรือการก่อสร้างโครงสร้างต่าง ๆ
- การแยกหินหรือคอนกรีต: ในงานก่อสร้างหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง ใช้อีเตอร์ในการแยกหินหรือคอนกรีตออกจากกัน
- การเตรียมพื้นที่: ในการจัดสวนหรือทำสวน เครื่องมือนี้ช่วยให้ง่ายต่อการเตรียมพื้นที่โดยการขุดหรือขัดดินเพื่อป้องกันการอุดรั้วหรือท่อระบายน้ำ
- การทำงานในเหมือง: ในงานเหมืองเช่นเหมืองแร่ อีเตอร์มักใช้ในการขุดหินหรือแยกแยะวัสดุที่แข็งมากอื่น ๆ
- การตัดต้นไม้: ในบางกรณี อีเตอร์อาจถูกใช้เพื่อช่วยในการตัดต้นไม้โดยการขุดหรือขัดดินรอบๆ โคนต้นไม้เพื่อช่วยให้ต้นไม้ล้มได้ง่ายขึ้น
การประยุกต์ใช้งานอีเตอร์ขึ้นอยู่กับลักษณะของงานและวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ แต่ทั้งหมดเป็นการใช้งานที่ต้องใช้ความแข็งแรงและความเชี่ยวชาญในการจัดการกับวัสดุที่แข็งแรง
การดูแลรักษา อีเตอร์

การดูแลรักษาอีเตอร์ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและอายุให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน ด้วยข้อแนะนำดังต่อไปนี้:
- การเก็บรักษา: เมื่อไม่ได้ใช้งาน ควรเก็บอีเตอร์ในที่แห้งและอาการถ่ายเท เพื่อป้องกันความชื้นที่อาจทำให้เกิดสนิมได้
- การล้าง: หลังจากใช้งานเสร็จสิ้นแล้ว ควรล้างอีเตอร์ด้วยน้ำเปล่าเพื่อชะล้างฝุ่น ดิน หรือคราบสรกปรกที่เกิดจากการใช้งาน ออกไปจากพื้นผิวของอีเตอร์
- การตรวจสอบสภาพ: ควรตรวจสอบสภาพของอีเตอร์อย่างสม่ำเสมอ เช็คให้แน่ใจว่าได้สวมแน่ติดกับด้าม ไม่หลุดหรือหลวม ทั้งนี้เพื่อคามปลอดภัยในการใช้งาน
- การลดสนิม: หากมีสนิมเกิดขึ้นบนผิวอีเตอร์ ให้ขัดลบสนิมออก และใช้ผลิตภัณฑ์กันสนิมหรือน้ำมันเพื่อป้องกันการสนิมเพิ่มเติม
- การรักษาความคม: การรักษาความคมของอีเตอร์ สามารถทำได้โดยการใช้เครื่องเจียคม ปรับให้มีความคมตามต้องการ
- การเคลือบน้ำมัน: พื่อป้องกันการสนิมและช่วยให้อีเตอร์มีความคมตลอดเวลา ควรเคลือบด้วยน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันสำหรับเครื่องมือที่เหมาะสม
- การเฝือมัน: หลังจากทุกขั้นตอนข้างต้นเสร็จสิ้น ควรเฝือมันอีเตอร์ด้วยผ้าที่มีน้ำมันเพื่อป้องกันการสนิมและเก็บรักษาในสภาพที่ดี
การดูแลรักษาอีเตอร์อย่างเหมาะสม จะช่วยให้มันให้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและยืดอายุการใช้งานให้ได้นานมากขึ้น
Reviews
There are no reviews yet.