เทปOPP

เทปOPP / เทปใส / เทปสีน้ำตาล

เทปOPP (Oriented Polypropylene Tape) ทำจากโพลีโพรพิลีน (Polypropylene) ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดหนึ่ง โดยในกระบวนการผลิต เทป OPP จะถูกทำให้มีลักษณะเป็นเส้นและมีความแข็งแรงโดยการยืดออกและยืดออกไปในทิศทางเดียวกัน (Oriented) ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานให้กับวัสดุนี้

เทปOPP มักถูกนำมาใช้ในงานบรรจุภัณฑ์และการแพคสินค้า ด้วยความทนทานต่ออุณหภูมิที่สูง ความแข็งแรงที่ดี และความโปร่งใส ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในการบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรงและการแสดงสินค้าอย่างชัดเจน นอกจากนี้ เทป OPP ยังมีความทนทานต่อสารเคมีและฉนวนไฟฟ้าดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในสถานการณ์และงานที่ต้องการความคงทนต่อสภาพแวดล้อมและสารเคมีต่างๆ

ตราสินค้า Brand : Liona Tape

ชื่อเรียกอื่นๆ : เทปใส เทปขุ่น เทปติดกล่อง เทปติดกล่องพัสดุ

สี : สีใส / สีน้ำตาล

ความยาวต่อม้วน : 45 หลา / 100 หลา

ขายส่ง 6 ม้วน และ ยกกล่อง

คลิกที่นี่! เพื่อสอบถามสินค้า & ขอใบราคา นะคะ

เทปOPP สีใส

เทปOPP สีน้ำตาล

คุณสมบัติของ เทปOPP

เทป OPP หรือ Oriented Polypropylene Tape เป็นวัสดุที่มักถูกใช้ในงานบรรจุภัณฑ์และการแพคสินค้า เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจต่อไปนี้:

ความแข็งแรง: OPP เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการแตกหัก ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในการบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรงเพื่อป้องกันการสะเทือนหรือความเสียหายจากการขนส่งและการใช้งานทั่วไป
ความโปร่งใส: OPP มีความโปร่งใสที่ดี ทำให้สามารถมองเห็นสินค้าภายในบรรจุภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับสินค้าที่ต้องการการตลาดและการโฆษณา
ความทนทานต่ออุณหภูมิ: OPP มีความทนทานต่ออุณหภูมิที่สูง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการเก็บรักษาสินค้าในสภาวะอุณหภูมิสูงหรือต่ำ
ความเป็นฉนวนไฟฟ้า: OPP เป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดี ซึ่งมีประโยชน์ในการป้องกันการชำรุดของสินค้าที่อาจถูกทำลายโดยสถานการณ์สถิติหรือไฟฟ้าสถิต
ความคงทนต่อสารเคมี: OPP มีความทนทานต่อสารเคมีหลายชนิด ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในงานที่ต้องการความคงทนต่อสารเคมี เช่น การบรรจุเครื่องสำอางหรืออาหารที่มีสารเคมีต่างๆ ในกระบวนการผลิตและบรรจุหีบห่อ

โดยทั่วไปแล้ว OPP เป็นวัสดุที่หลากหลายในการใช้งานและมีความสามารถในการปรับปรุงเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแต่ละแห่งตามความต้องการที่แตกต่างกัน

ข้อแนะนำในการใช้เทปOPP ติดกล่อง

การใช้เทป OPP เพื่อติดกล่องเป็นวิธีที่พอเห็นได้บ่อยในการบรรจุภัณฑ์ จึงมีขั้นตอนและข้อแนะนำ เพื่อการติดกล่องให้มีความแน่นหนามาขึ้นมาฝาก ดังนี้

เตรียมพื้นที่: ก่อนที่จะติดกล่องด้วยเทป OPP ควรเตรียมพื้นที่ที่จะทำการติดโดยให้มีพื้นที่เรียบและแห้ง โดยเฉพาะบริเวณที่คุณต้องการติดกล่อง
ติดเทป OPP แนวขวาง: ใช้เทป OPP ติดที่ขอบของกล่อง โดยให้เทปประสานตามแนวของขอบของกล่อง แนะนำให้เริ่มต้นจากหนึ่งด้านของกล่องแล้วค่อยๆ วางเทปลงไปตามขอบโดยช้าๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเทปประสานได้สมบูรณ์และไม่มีรอยพับหรือแยกตัว
แนะนำให้ใช้เทปสองทิศทาง: หลังจากติดเทป OPP ที่ด้านข้างแล้ว คุณสามารถติดเทป OPP อีกด้านหนึ่งของกล่องเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับการปิดกล่อง และยังช่วยให้กล่องมีการป้องกันเพิ่มเติมต่อการรั่วไหลของสิ่งของภายในได้ด้วย

การใช้เทป OPP เพื่อติดกล่องเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการประหยัดเวลาและเงินในการบรรจุภัณฑ์ และมักถูกนำมาใช้ในการบรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบาถึงกลางชนิด อย่างเช่น การจัดส่งออนไลน์ สินค้าอาหาร หรือสินค้าที่ไม่ต้องการการป้องกันที่มาก

ข้อแนะนำในการเก็บเทปOPP เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ

เมื่อไม่ได้ใช้งานเทป OPP ควรเก็บรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพและรั่วไหล นี่คือวิธีที่คุณสามารถเก็บเทป OPP ได้อย่างเหมาะสม

เก็บในที่แห้งและถูกป้องกัน: หลีกเลี่ยงการเก็บเทป OPP ในสภาพอากาศชื้นหรืออุณหภูมิสูง เนื่องจากอาจทำให้เทปเป็นร่องรอยของความชำรุด เก็บในอุปกรณ์ที่สามารถป้องกันฝุ่นและความชื้นได้ เช่น กล่องหีบห่อหรือซองพลาสติกที่มีประตูปิดสนิท
หลีกเลี่ยงแสงแดด: เก็บเทป OPP ในที่ที่ไม่มีแสงแดดตรง แสงแดดสามารถทำให้เทปถูกทำลายและเสื่อมสภาพได้
ไม่ต้องง้อให้หยุดแน่นอน: หลีกเลี่ยงการบีบเทป OPP ไว้เป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสภาพอุณหภูมิสูง การบีบเทปนานๆ อาจทำให้มีความหนาแน่นสูงขึ้นและทำให้เทปไม่สามารถใช้ได้เมื่อจะนำมาใช้ในภายหลัง
เก็บในที่ที่ไม่มีสารเคมี: หลีกเลี่ยงการเก็บเทป OPP ใกล้กับสารเคมีที่อาจทำให้เทปเสียหาย เช่น สารเคมีที่มีกลิ่นเข้มข้นหรือที่มีความกระด้าง
ตรวจสอบการเก็บเทปเป็นระยะ: ทำการตรวจสอบเทป OPP อย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบว่ามีความชำรุดหรือไม่ ถ้ามีรอยบิ่นหรือรอยแตก ควรทิ้งเทปนั้นเพื่อป้องกันการใช้งานที่ไม่เหมาะสมในอนาคต

โดยปกติแล้วการเก็บรักษาเทป OPP ให้ใช้ความระมัดระวังในการรักษาเทปอย่างถูกต้อง จะช่วยให้เทปสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อมีความจำเป็นในอนาคต