กาวซีเมนต์

คุณสมบัติเด่น

• มีความเหนียวยึดเกาะได้นาน

ในส่วนผสมปูนกาวมีการใส่สารที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะเข้าไป ทำให้ปูนกาวมีความเหนียวและยึดเกาะได้นานไม่หลุดล่อนได้ง่าย ใช้งานร่วมกับการปูกระเบื้องที่ถูกวิธี ไม่ปูกระเบื้องแบบซาลาเปา หรือปูกระเบื้องแบบขี้หนู ก็ช่วยให้กระเบื้องของเรายึดเกาะกับพื้นได้อย่างยาวนาน ไม่แตกหักหลุดล่อนได้ง่าย

• ใช้งานง่ายและติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว

ปูนกาวใช้งานได้ง่ายเพียงแค่ผสมน้ำสะอาดก็ใช้งานได้ ต่างจากปูนซีเมนต์ที่ต้องใช้ทรายเป็นส่วนผสม รวมไปถึงต้องนำกระเบื้องไปแช่น้ำก่อนอย่างน้อยหนึ่งวัน ทำให้ต้องใช้เวลาในการปูกระเบื้องมากกว่าการใช้ปูนกาวปูกระเบื้อง

• ข้อจำกัดน้อย

การใช้ปูนกาวปูกระเบื้องช่วยลดข้อจำกัดไปการปูกระเบื้องได้ไปหลายข้อ สามารถปูกระเบื้องได้หลายขนาดตั้งแต่ ขนาด 20×20 ซม. ไปจนกระเบื้องขนาดใหญ่พิเศษ 160×320 ซม. และสามารถปูทับกระเบื้องเก่าได้เลย ในขณะปูนซีเมนต์แบบดั้งเดิมไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้

1. สัดส่วนการผสมปูนกาวในอัตรา 1:3 (น้ำ 1 ส่วน ปูนกาว 3 ส่วน)
2. ค่อยๆ เติมน้ำแล้วกวนไปเรื่อยๆ จนปูนกาวเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
3. พักไว้ 5-10 นาที รอให้ปูนกาวเซ็ตตัวจึงพร้อมใช้งาน

คำแนะนำเพิ่มเติม :

1. สำหรับมือใหม่ที่ไม่ใช่ช่างมืออาชีพ ควรผสมทีละน้อยเพื่อป้องกันปูนกาวแข็งตัวก่อนปูกระเบื้องเสร็จ หลังผสมน้ำแล้วควรปูนกาวใช้ให้หมดภายใน 45 นาที
2. ความหนาของกาวซีเมนต์ ที่เหมาะสม ควรหนา 2 – 10  มิลลิเมตร
3. ควรหลีกเลี่ยงการป้ายกาวซีเมนต์บนแผ่นหลังเป็นจุดๆ เนื่องจากจะทำให้มีช่องอากาศระหว่างแผ่นกระเบื้องกับผิวช่องอากาศใต้พื้นกระเบื้อง มีผลทำให้กระเบื้องแตกและน้ำสามารถไหลซึมเข้าไปได้ง่าย
4. ควรหลีกเลี่ยงการใช้กาวซีเมนต์เมื่อมีแสงแดดโดยตรงหรือพื้นผิวที่ร้อนจัด
5. ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด และปล่อยให้แห้งสนิทเสียก่อนปูกระเบื้อง
6. เลือกเกรียงหวีให้เหมาะกับขนาดกระเบื้อง ควรจะใช้เกรียงหวีปาดปูนกาวให้เป็นร่อง